ตะแกรงรางน้ำคืออะไร? ดียังไง?
ตะแกรงรางน้ำ คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดตั้งที่รางน้ำฝน เพื่อช่วยกรองสิ่งสกปรก เช่น ใบไม้ ฝุ่น หรือเศษขยะต่างๆ ที่อาจจะตกลงไปในรางน้ำและทำให้รางน้ำอุดตัน ตะแกรงรางน้ำช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้ไปขวางทางการไหลของน้ำฝน ทำให้ระบบระบายน้ำทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่บริเวณหลังคาหรือรอบๆ บ้าน
ตะแกรงรางน้ำมักทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส พลาสติก หรืออลูมิเนียม และมีรูระบายที่ช่วยให้ระบายน้ำได้ดี แต่สามารถกรองสิ่งสกปรกที่ใหญ่เกินไปได้
ประโยชน์หลักๆ ของตะแกรงรางน้ำคือ:
- ป้องกันการอุดตัน: ช่วยให้รางน้ำไม่อุดตันจากใบไม้หรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ระบบระบายน้ำหยุดทำงาน
- ลดการบำรุงรักษา: ไม่ต้องทำความสะอาดรางน้ำบ่อยๆ เนื่องจากสิ่งสกปรกจะถูกกรองออก
- เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ: ช่วยให้น้ำฝนไหลไปในทิศทางที่ต้องการได้โดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งขวางทาง
การใช้ตะแกรงรางน้ำจึงช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและยืดอายุการใช้งานของระบบรางน้ำฝนในบ้าน.
ตะแกรงรางน้ำมีแบบไหนบ้าง
ตะแกรงรางน้ำมีหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวัสดุและลักษณะการติดตั้ง โดยทั่วไปแล้วตะแกรงรางน้ำสามารถแบ่งออกเป็นหลายแบบดังนี้ :
1. ตะแกรงรางน้ำแบบตะแกรงเหล็ก (Steel Mesh Gutter Guard)
- วัสดุ : ทำจากเหล็กกล้าเคลือบสังกะสี หรือเหล็กสแตนเลส
- คุณสมบัติ : แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศรุนแรงหรือมีฝนตกชุก
- การติดตั้ง : สามารถติดตั้งได้ง่ายและมีความทนทานสูง
- ข้อดี : ช่วยกรองใบไม้และเศษขยะได้ดี และป้องกันการอุดตันในรางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ตะแกรงรางน้ำแบบพลาสติก (Plastic Gutter Guard)
- วัสดุ : ผลิตจากพลาสติกที่มีความแข็งแรง เช่น พลาสติก PVC หรือพลาสติก Polypropylene
- คุณสมบัติ : น้ำหนักเบา ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพอากาศ
- การติดตั้ง : ติดตั้งง่าย เนื่องจากน้ำหนักเบาและไม่ต้องใช้เครื่องมือมากมาย
- ข้อดี : ราคาถูกกว่าเหล็ก สามารถทนความร้อนได้ดี และไม่เป็นสนิม
3. ตะแกรงรางน้ำแบบสแตนเลส (Stainless Steel Gutter Guard)
- วัสดุ : ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง
- คุณสมบัติ : ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิมได้ดี
- การติดตั้ง : สามารถติดตั้งได้ง่ายและเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศชื้นหรือฝนตกบ่อย
- ข้อดี : มีอายุการใช้งานยาวนานและทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
4. ตะแกรงรางน้ำแบบตาข่าย (Mesh Gutter Guard)
- วัสดุ : ทำจากวัสดุที่เป็นตาข่าย เช่น สแตนเลสหรือวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ
- คุณสมบัติ : การออกแบบเป็นตาข่ายช่วยให้สามารถระบายน้ำได้ดีและกรองเศษขยะได้ในขนาดต่างๆ
- การติดตั้ง : ติดตั้งง่าย สามารถตัดให้เหมาะสมกับขนาดรางน้ำ
- ข้อดี : การระบายน้ำไม่ถูกรบกวนจากการอุดตัน แต่สามารถกรองเศษขยะขนาดใหญ่ได้
5. ตะแกรงรางน้ำแบบฝาปิด (Solid Gutter Cover)
- วัสดุ : ทำจากวัสดุแข็ง เช่น อลูมิเนียม, สแตนเลส หรือพลาสติก
- คุณสมบัติ : มีลักษณะเป็นแผ่นฝาปิดทับรางน้ำ โดยมีช่องระบายที่ช่วยให้น้ำฝนไหลผ่าน
- การติดตั้ง : ติดตั้งด้วยวิธีการคลุมทับบนรางน้ำ
- ข้อดี : สามารถป้องกันใบไม้และขยะได้มากที่สุด แต่ต้องระมัดระวังในการเลือกวัสดุที่สามารถระบายน้ำได้ดี
6. ตะแกรงรางน้ำแบบแถบ (Gutter Guard Strip)
- วัสดุ : ทำจากสแตนเลสหรือพลาสติกที่มีลักษณะเป็นแถบยาว
- คุณสมบัติ : ออกแบบมาเพื่อกรองเศษขยะขนาดใหญ่โดยไม่ให้ตกลงไปในรางน้ำ
- การติดตั้ง : ติดตั้งง่ายในแบบแถบยาวที่สามารถยึดกับรางน้ำได้
- ข้อดี : ติดตั้งได้ง่าย และสามารถป้องกันการอุดตันจากใบไม้ได้ดี
7. ตะแกรงรางน้ำแบบเส้น (Gutter Brush)
- วัสดุ : ทำจากเส้นใยไนลอน หรือวัสดุที่มีความยืดหยุ่น
- คุณสมบัติ : เป็นแผงเส้นใยที่ติดตั้งในรางน้ำเพื่อกรองใบไม้และเศษขยะ
- การติดตั้ง : สามารถใส่ลงในรางน้ำได้โดยไม่ต้องติดตั้งด้วยเครื่องมือ
- ข้อดี : ติดตั้งง่าย ทำความสะอาดได้สะดวก แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันขยะขนาดใหญ่
8. ตะแกรงรางน้ำแบบแผ่น (Gutter Guard Panel)
- วัสดุ : มักทำจากอลูมิเนียมหรือสแตนเลส
- คุณสมบัติ : เป็นแผ่นตะแกรงที่ครอบคลุมทั้งรางน้ำและมีช่องทางระบายน้ำ
- การติดตั้ง : ติดตั้งในลักษณะคลุมรางน้ำ
- ข้อดี : สามารถป้องกันเศษขยะขนาดใหญ่ได้ดี แต่ยังคงระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
9. ตะแกรงรางน้ำแบบบานเกล็ด (Louvered Gutter Guard)
- วัสดุ : ทำจากสแตนเลสหรืออลูมิเนียม
- คุณสมบัติ : มีช่องระบายที่เป็นลักษณะบานเกล็ด ช่วยให้ระบายน้ำได้ดีและกรองเศษขยะได้ดี
- การติดตั้ง : ติดตั้งได้ง่ายและเหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อน
- ข้อดี : ป้องกันสิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่จากการตกลงในรางน้ำ
สรุป:
ตะแกรงรางน้ำมีหลายประเภทที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้หลากหลาย ทั้งในแง่ของวัสดุ, การติดตั้ง และการระบาย ซึ่งการเลือกประเภทที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกและลดการอุดตันในระบบรางน้ำ.
ขนาดของ ตะแกรงรางน้ำ
ขนาดของ ตะแกรงรางน้ำ มักจะขึ้นอยู่กับขนาดของ รางน้ำ ที่จะติดตั้ง รวมถึงการออกแบบและประเภทของตะแกรงที่เลือกใช้ โดยทั่วไปแล้วขนาดของตะแกรงรางน้ำจะถูกกำหนดให้ตรงกับขนาดของรางน้ำเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกและระบายน้ำได้ดี มาดูรายละเอียดขนาดต่างๆ ที่พบได้บ่อย :
1. ขนาดรางน้ำทั่วไป
ขนาดของรางน้ำที่ใช้ในบ้านส่วนใหญ่มีขนาดดังนี้ :
- รางน้ำขนาด 4 นิ้ว : เป็นขนาดที่พบได้บ่อยในบ้านทั่วไป โดยรางน้ำขนาดนี้จะเหมาะกับการใช้งานในบ้านที่มีพื้นที่หลังคาไม่ใหญ่
- รางน้ำขนาด 5 นิ้ว : ใช้สำหรับบ้านที่มีพื้นที่หลังคาค่อนข้างใหญ่ หรือพื้นที่ที่มีฝนตกชุก
- รางน้ำขนาด 6 นิ้ว : เหมาะสำหรับบ้านหรืออาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง
2. ขนาดของตะแกรงรางน้ำ
ตะแกรงรางน้ำจะมีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของรางน้ำที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งโดยทั่วไปมีขนาดตามนี้ :
- ตะแกรงรางน้ำสำหรับรางน้ำขนาด 4 นิ้ว : ขนาดของตะแกรงจะมีความกว้างประมาณ 4 นิ้วและความยาวที่สามารถปรับได้ตามความยาวของรางน้ำ
- ตะแกรงรางน้ำสำหรับรางน้ำขนาด 5 นิ้ว : ขนาดของตะแกรงจะมีความกว้างประมาณ 5 นิ้ว และความยาวสามารถตัดหรือปรับให้พอดีกับรางน้ำ
- ตะแกรงรางน้ำสำหรับรางน้ำขนาด 6 นิ้ว : ขนาดของตะแกรงจะกว้างประมาณ 6 นิ้วและสามารถปรับให้เหมาะสมกับความยาวของรางน้ำ
3. ขนาดของตะแกรงแบบแผ่นหรือแบบตาข่าย
- ความยาว : ตะแกรงแบบแผ่นหรือแบบตาข่ายมักมีความยาวมาตรฐานที่ประมาณ 3 เมตร หรือ 1.5 เมตร (ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและวัสดุที่ใช้)
- ความกว้าง : ขนาดของตะแกรงจะมีความกว้างที่พอดีกับขนาดของรางน้ำ เช่น 4 นิ้ว, 5 นิ้ว หรือ 6 นิ้ว โดยที่การออกแบบบางประเภทอาจให้ความยืดหยุ่นในการตัดให้เข้ากับขนาดรางน้ำที่ต่างกัน
4. ตะแกรงแบบสแตนเลสหรือเหล็กเคลือบ (เหล็กตะแกรง)
- ความกว้างและความยาวของตะแกรงสแตนเลสหรือเหล็กเคลือบมักจะถูกผลิตให้มีความกว้างประมาณ 5-6 นิ้ว ตามขนาดของรางน้ำทั่วไป
- การออกแบบจะมีลักษณะเป็นแผ่นตะแกรงที่สามารถตัดให้พอดีกับขนาดของรางน้ำที่ต้องการได้
5. ตะแกรงรางน้ำแบบเส้น (Gutter Brush)
- ตะแกรงชนิดนี้จะมีเส้นใยไนลอนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 นิ้ว และยาวประมาณ 3 เมตร หรือสามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับความยาวของรางน้ำได้
ขนาดของรูตะแกรง
รูของตะแกรงรางน้ำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกใช้งาน :
- รูของตะแกรงส่วนใหญ่จะมีขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เพื่อกรองใบไม้และเศษขยะขนาดใหญ่ แต่ยังสามารถระบายน้ำได้ดี
- สำหรับบางประเภทที่ต้องการกรองสิ่งสกปรกขนาดเล็กอาจจะมีขนาดรูเล็กลง
สรุป:
- ขนาดของตะแกรงรางน้ำส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับขนาดของรางน้ำที่ติดตั้ง เช่น 4 นิ้ว, 5 นิ้ว หรือ 6 นิ้ว
- ความยาวของตะแกรงมักจะมีมาตรฐานที่ประมาณ 1.5-3 เมตร หรือสามารถปรับตัดได้ตามความยาวของรางน้ำ
- การเลือกขนาดตะแกรงต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับขนาดของรางน้ำและสภาพแวดล้อมการใช้งาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกและระบายน้ำได้ดี.