ตะแกรงรางน้ำคืออะไร? ดียังไง?

ตะแกรงรางน้ำ คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดตั้งที่รางน้ำฝน เพื่อช่วยกรองสิ่งสกปรก เช่น ใบไม้ ฝุ่น หรือเศษขยะต่างๆ ที่อาจจะตกลงไปในรางน้ำและทำให้รางน้ำอุดตัน ตะแกรงรางน้ำช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้ไปขวางทางการไหลของน้ำฝน ทำให้ระบบระบายน้ำทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่บริเวณหลังคาหรือรอบๆ บ้าน

ตะแกรงรางน้ำมักทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส พลาสติก หรืออลูมิเนียม และมีรูระบายที่ช่วยให้ระบายน้ำได้ดี แต่สามารถกรองสิ่งสกปรกที่ใหญ่เกินไปได้

ประโยชน์หลักๆ ของตะแกรงรางน้ำคือ:

  1. ป้องกันการอุดตัน: ช่วยให้รางน้ำไม่อุดตันจากใบไม้หรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ระบบระบายน้ำหยุดทำงาน
  2. ลดการบำรุงรักษา: ไม่ต้องทำความสะอาดรางน้ำบ่อยๆ เนื่องจากสิ่งสกปรกจะถูกกรองออก
  3. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ: ช่วยให้น้ำฝนไหลไปในทิศทางที่ต้องการได้โดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งขวางทาง

การใช้ตะแกรงรางน้ำจึงช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและยืดอายุการใช้งานของระบบรางน้ำฝนในบ้าน.

 

ตะแกรงรางน้ำมีแบบไหนบ้าง

ตะแกรงรางน้ำมีหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวัสดุและลักษณะการติดตั้ง โดยทั่วไปแล้วตะแกรงรางน้ำสามารถแบ่งออกเป็นหลายแบบดังนี้ :

1. ตะแกรงรางน้ำแบบตะแกรงเหล็ก (Steel Mesh Gutter Guard)

  • วัสดุ : ทำจากเหล็กกล้าเคลือบสังกะสี หรือเหล็กสแตนเลส
  • คุณสมบัติ : แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศรุนแรงหรือมีฝนตกชุก
  • การติดตั้ง : สามารถติดตั้งได้ง่ายและมีความทนทานสูง
  • ข้อดี : ช่วยกรองใบไม้และเศษขยะได้ดี และป้องกันการอุดตันในรางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ตะแกรงรางน้ำแบบพลาสติก (Plastic Gutter Guard)

  • วัสดุ : ผลิตจากพลาสติกที่มีความแข็งแรง เช่น พลาสติก PVC หรือพลาสติก Polypropylene
  • คุณสมบัติ : น้ำหนักเบา ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพอากาศ
  • การติดตั้ง : ติดตั้งง่าย เนื่องจากน้ำหนักเบาและไม่ต้องใช้เครื่องมือมากมาย
  • ข้อดี : ราคาถูกกว่าเหล็ก สามารถทนความร้อนได้ดี และไม่เป็นสนิม

3. ตะแกรงรางน้ำแบบสแตนเลส (Stainless Steel Gutter Guard)

  • วัสดุ : ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง
  • คุณสมบัติ : ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิมได้ดี
  • การติดตั้ง : สามารถติดตั้งได้ง่ายและเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอากาศชื้นหรือฝนตกบ่อย
  • ข้อดี : มีอายุการใช้งานยาวนานและทนทานต่อทุกสภาพอากาศ

4. ตะแกรงรางน้ำแบบตาข่าย (Mesh Gutter Guard)

  • วัสดุ : ทำจากวัสดุที่เป็นตาข่าย เช่น สแตนเลสหรือวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ
  • คุณสมบัติ : การออกแบบเป็นตาข่ายช่วยให้สามารถระบายน้ำได้ดีและกรองเศษขยะได้ในขนาดต่างๆ
  • การติดตั้ง : ติดตั้งง่าย สามารถตัดให้เหมาะสมกับขนาดรางน้ำ
  • ข้อดี : การระบายน้ำไม่ถูกรบกวนจากการอุดตัน แต่สามารถกรองเศษขยะขนาดใหญ่ได้

5. ตะแกรงรางน้ำแบบฝาปิด (Solid Gutter Cover)

  • วัสดุ : ทำจากวัสดุแข็ง เช่น อลูมิเนียม, สแตนเลส หรือพลาสติก
  • คุณสมบัติ : มีลักษณะเป็นแผ่นฝาปิดทับรางน้ำ โดยมีช่องระบายที่ช่วยให้น้ำฝนไหลผ่าน
  • การติดตั้ง : ติดตั้งด้วยวิธีการคลุมทับบนรางน้ำ
  • ข้อดี : สามารถป้องกันใบไม้และขยะได้มากที่สุด แต่ต้องระมัดระวังในการเลือกวัสดุที่สามารถระบายน้ำได้ดี

6. ตะแกรงรางน้ำแบบแถบ (Gutter Guard Strip)

  • วัสดุ : ทำจากสแตนเลสหรือพลาสติกที่มีลักษณะเป็นแถบยาว
  • คุณสมบัติ : ออกแบบมาเพื่อกรองเศษขยะขนาดใหญ่โดยไม่ให้ตกลงไปในรางน้ำ
  • การติดตั้ง : ติดตั้งง่ายในแบบแถบยาวที่สามารถยึดกับรางน้ำได้
  • ข้อดี : ติดตั้งได้ง่าย และสามารถป้องกันการอุดตันจากใบไม้ได้ดี

7. ตะแกรงรางน้ำแบบเส้น (Gutter Brush)

  • วัสดุ : ทำจากเส้นใยไนลอน หรือวัสดุที่มีความยืดหยุ่น
  • คุณสมบัติ : เป็นแผงเส้นใยที่ติดตั้งในรางน้ำเพื่อกรองใบไม้และเศษขยะ
  • การติดตั้ง : สามารถใส่ลงในรางน้ำได้โดยไม่ต้องติดตั้งด้วยเครื่องมือ
  • ข้อดี : ติดตั้งง่าย ทำความสะอาดได้สะดวก แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันขยะขนาดใหญ่

8. ตะแกรงรางน้ำแบบแผ่น (Gutter Guard Panel)

  • วัสดุ : มักทำจากอลูมิเนียมหรือสแตนเลส
  • คุณสมบัติ : เป็นแผ่นตะแกรงที่ครอบคลุมทั้งรางน้ำและมีช่องทางระบายน้ำ
  • การติดตั้ง : ติดตั้งในลักษณะคลุมรางน้ำ
  • ข้อดี : สามารถป้องกันเศษขยะขนาดใหญ่ได้ดี แต่ยังคงระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9. ตะแกรงรางน้ำแบบบานเกล็ด (Louvered Gutter Guard)

  • วัสดุ : ทำจากสแตนเลสหรืออลูมิเนียม
  • คุณสมบัติ : มีช่องระบายที่เป็นลักษณะบานเกล็ด ช่วยให้ระบายน้ำได้ดีและกรองเศษขยะได้ดี
  • การติดตั้ง : ติดตั้งได้ง่ายและเหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อน
  • ข้อดี : ป้องกันสิ่งสกปรกที่มีขนาดใหญ่จากการตกลงในรางน้ำ

สรุป:

ตะแกรงรางน้ำมีหลายประเภทที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้หลากหลาย ทั้งในแง่ของวัสดุ, การติดตั้ง และการระบาย ซึ่งการเลือกประเภทที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกและลดการอุดตันในระบบรางน้ำ.

 

ขนาดของ ตะแกรงรางน้ำ

ขนาดของ ตะแกรงรางน้ำ มักจะขึ้นอยู่กับขนาดของ รางน้ำ ที่จะติดตั้ง รวมถึงการออกแบบและประเภทของตะแกรงที่เลือกใช้ โดยทั่วไปแล้วขนาดของตะแกรงรางน้ำจะถูกกำหนดให้ตรงกับขนาดของรางน้ำเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกและระบายน้ำได้ดี มาดูรายละเอียดขนาดต่างๆ ที่พบได้บ่อย :

1. ขนาดรางน้ำทั่วไป

ขนาดของรางน้ำที่ใช้ในบ้านส่วนใหญ่มีขนาดดังนี้ :

  • รางน้ำขนาด 4 นิ้ว : เป็นขนาดที่พบได้บ่อยในบ้านทั่วไป โดยรางน้ำขนาดนี้จะเหมาะกับการใช้งานในบ้านที่มีพื้นที่หลังคาไม่ใหญ่
  • รางน้ำขนาด 5 นิ้ว : ใช้สำหรับบ้านที่มีพื้นที่หลังคาค่อนข้างใหญ่ หรือพื้นที่ที่มีฝนตกชุก
  • รางน้ำขนาด 6 นิ้ว : เหมาะสำหรับบ้านหรืออาคารขนาดใหญ่ที่ต้องการระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง

2. ขนาดของตะแกรงรางน้ำ

ตะแกรงรางน้ำจะมีขนาดที่เหมาะสมกับขนาดของรางน้ำที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งโดยทั่วไปมีขนาดตามนี้ :

  • ตะแกรงรางน้ำสำหรับรางน้ำขนาด 4 นิ้ว : ขนาดของตะแกรงจะมีความกว้างประมาณ 4 นิ้วและความยาวที่สามารถปรับได้ตามความยาวของรางน้ำ
  • ตะแกรงรางน้ำสำหรับรางน้ำขนาด 5 นิ้ว : ขนาดของตะแกรงจะมีความกว้างประมาณ 5 นิ้ว และความยาวสามารถตัดหรือปรับให้พอดีกับรางน้ำ
  • ตะแกรงรางน้ำสำหรับรางน้ำขนาด 6 นิ้ว : ขนาดของตะแกรงจะกว้างประมาณ 6 นิ้วและสามารถปรับให้เหมาะสมกับความยาวของรางน้ำ

3. ขนาดของตะแกรงแบบแผ่นหรือแบบตาข่าย

  • ความยาว : ตะแกรงแบบแผ่นหรือแบบตาข่ายมักมีความยาวมาตรฐานที่ประมาณ 3 เมตร หรือ 1.5 เมตร (ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและวัสดุที่ใช้)
  • ความกว้าง : ขนาดของตะแกรงจะมีความกว้างที่พอดีกับขนาดของรางน้ำ เช่น 4 นิ้ว, 5 นิ้ว หรือ 6 นิ้ว โดยที่การออกแบบบางประเภทอาจให้ความยืดหยุ่นในการตัดให้เข้ากับขนาดรางน้ำที่ต่างกัน

4. ตะแกรงแบบสแตนเลสหรือเหล็กเคลือบ (เหล็กตะแกรง)

  • ความกว้างและความยาวของตะแกรงสแตนเลสหรือเหล็กเคลือบมักจะถูกผลิตให้มีความกว้างประมาณ 5-6 นิ้ว ตามขนาดของรางน้ำทั่วไป
  • การออกแบบจะมีลักษณะเป็นแผ่นตะแกรงที่สามารถตัดให้พอดีกับขนาดของรางน้ำที่ต้องการได้

5. ตะแกรงรางน้ำแบบเส้น (Gutter Brush)

  • ตะแกรงชนิดนี้จะมีเส้นใยไนลอนที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2-3 นิ้ว และยาวประมาณ 3 เมตร หรือสามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับความยาวของรางน้ำได้

ขนาดของรูตะแกรง

รูของตะแกรงรางน้ำก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกใช้งาน :

  • รูของตะแกรงส่วนใหญ่จะมีขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เพื่อกรองใบไม้และเศษขยะขนาดใหญ่ แต่ยังสามารถระบายน้ำได้ดี
  • สำหรับบางประเภทที่ต้องการกรองสิ่งสกปรกขนาดเล็กอาจจะมีขนาดรูเล็กลง

สรุป:

  • ขนาดของตะแกรงรางน้ำส่วนใหญ่จะสัมพันธ์กับขนาดของรางน้ำที่ติดตั้ง เช่น 4 นิ้ว, 5 นิ้ว หรือ 6 นิ้ว
  • ความยาวของตะแกรงมักจะมีมาตรฐานที่ประมาณ 1.5-3 เมตร หรือสามารถปรับตัดได้ตามความยาวของรางน้ำ
  • การเลือกขนาดตะแกรงต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับขนาดของรางน้ำและสภาพแวดล้อมการใช้งาน เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกรองสิ่งสกปรกและระบายน้ำได้ดี.